น้ำมันฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในวันพุธจากข้อมูลอุปสงค์ในสหรัฐออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังราคาร่วงลงราว 5% ในวันก่อนหน้า ขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยก็ช่วยหนุนตลาดด้วยเช่นกัน
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐพุ่งขึ้น 90 เซนต์หรือ 1% สู่ 92.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 5.37 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้าโดยได้แรงหนุนจากความกลัวว่าเศรษฐกิจถดถอย สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับเดือนตุลาคมซึ่งจะหมดอายุในวันพุธพุ่งขึ้น 70 เซนต์หรือ 0.7% สู่ระดับ 100.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 5.78 ดอลลาร์ในวันอังคาร สัญญาฟิวเจอร์สสำหรับเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 96 เซนต์หรือ 1% ที่ 98.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การแกว่งตัวของราคาตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ทำให้กองทุนป้องกันความเสี่ยงและนักเก็งกำไรสั่นคลอน และเริ่มซื้อขายน้อยลง วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Commonwealth Bank กล่าวว่า “สภาพคล่องตลาดเริ่มต่ำลงและทำให้เราต้องเผชิญกับความผันผวน”
ข้อมูลจากสถาบัน American Petroleum Institute (API) เผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงประมาณ 3.4 ล้านบาร์เรล ในขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบิน ลดลงประมาณ 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม ข้อมูล API แสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 593,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงราว 1.5 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคายังคงถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีน อาทิในเซินเจิ้นไปจนถึงต้าเหลียน ซึ่งกำลังประกาศมาตรการล็อคดาวน์อยู่ ในด้านนักวิเคราะห์จาก ANZ Research ระบุในหมายเหตุว่า “การแพร่ระบาดนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของจีนเช่นเดียวกัน”
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนราคาในขณะนี้คือการหารือของสมาชิก OPEC+ ที่มีกำหนดประชุมนโยบายการผลิตในวันที่ 5 กันยายนนี้
แหล่งข่าว Oil crawls back up on signs of firm U.S. fuel demand, weaker dollar โดย Reuters
COMMENTS