SEARCH

อุปสงค์น้ำมันสหรัฐในเดือนธ.ค.จะแตะสูงสุดนับตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาด

ทองคำขึ้นจากบอนด์ยีลด์ที่ลดลง
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเร่งตัวขึ้น แต่เฟดยังถูกกดดันจากปัจจัยอื่น
“หุ้นไทย” ร่วงตามเอเชียเงินเฟ้อกดดันดัชนีปิด 1,636.39 จุด

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า อุปสงค์น้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคมสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก่อนการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส โดยจะมีการอุปทานเกือบ 21 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ความต้องการเชื้อเพลิงโดยรวมเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธันวาคมที่ 20.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2019

ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสหรัฐท่ามกลางการผลิตที่ยังคงช้าที่จะกลับสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้บังคับให้บริษัทพลังงานต่างๆ ดึงน้ำมันดิบจำนวนมหาศาลออกจากกคลังและช่วยเพิ่มราคาฟิวเจอร์สน้ำมันให้สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014

ผลผลิตน้ำมันดิบลดลงประมาณ 206,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 11.57 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม EIA กล่าวในรายงานการจัดหาปิโตรเลียมรายเดือน นั่นคือประมาณ 9% ต่ำกว่า 12.83 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ผลิตก่อนการระบาดใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ศูนย์จัดเก็บ Cushing ในโอคลาโฮมา จุดส่งมอบสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันล่วงหน้าของ New York Mercantile Exchange (NYMEX) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 ตามรายงานสถานะปิโตรเลียมรายสัปดาห์ของ EIA เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 3.45 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม

การผลิตก๊าซธรรมชาติขั้นต้นรายเดือนในสหรัฐฯ ใน 48 รัฐที่ต่ำกว่า เพิ่มขึ้น 0.1 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (bcfd) สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 108.3 bcfd ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ปริมาณก๊าซรวมที่ต่ำกว่า 48 จากสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งก่อนอยู่ที่ 108.2 bcfd ในเดือนพฤศจิกายน

แหล่งข่าว U.S. December oil demand hits highest since before pandemic -EIA โดย Reuters

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0