น้ำมันปรับตัวลดลงในวันจันทร์หลังขึ้นต่อเนื่อง 3 วัน จากความกลัวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอาจนำไปสู่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลง
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับเดือนตุลาคมลดลง 1.17 ดอลลาร์หรือ 1.2% สู่ 95.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐสำหรับเดือนกันยายนที่จะหมดอายุในวันจันทร์นั้นลดลง 1.12 ดอลลาร์หรือ 1.2% ที่ 89.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาเดือนตุลาคมอยู่ที่ 89.29 ดอลลาร์ ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ทั้งนี้ ทั้งเบรนต์และ WTI ร่วงลงราว 1.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลจากอุปสงค์
ฮิโรยูกิ คิคุกาวะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวิจัยของ Nissan Securities กล่าวว่า “นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวและความต้องการใช้เชื้อเพลิงลดลง ขณะที่ข้อจำกัดด้านอำนาจของจีนในบางภูมิภาคก็น่ากังวลเช่นกัน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ”
ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบเช่นกัน เพราะมันทำให้น้ำมันแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อในสกุลเงินอื่น
นักลงทุนจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับความคิดเห็นของประธานเฟดในการประชุมที่ Jackson Hole ในวันศุกร์นี้ โดยที่เจ้าหน้าที่เฟดระบุว่า “ยังมีเวลาอีกมาก” ก่อนที่จะต้องตัดสินใจว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเพียงใดในการประชุมเดือนกันยายน
ทำเนียบขาวกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ บรรดาผู้นำอย่างสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้หารือถึงความพยายามในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 แต่ยังไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม
แหล่งข่าว Oil falls on concerns economic slowdown may dent fuel demand โดย Reuters
COMMENTS