ราคาน้ำมันพุ่งจากความกังวลด้านอุปทานท่ามกลางความไม่สงบในคาซัคสถาน

น้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์เนื่องจากความวุ่นวายในคาซัคสถานทำให้เกิดความกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจาก OPEC+ อาจหยุดชะงักและผลผลิตในลิเบียที่ลดลง

เบรนท์พุ่งขึ้น 48 เซนต์หรือ 0.6% สู่ 82.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในช่วงก่อนหน้า ฟิวเจอร์ส WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 50 เซนต์หรือ 0.6% สู่ 79.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในช่วงก่อนหน้า

หลุยส์ ดิกสัน นักวิเคราะห์ของ Rystad Energy ระบุในอีเมลว่า “ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นส่วนใหญ่สะท้อนถึงความกระวนกระวายใจของตลาด เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ทวีความรุนแรงขึ้นในคาซัคสถาน และสถานการณ์ทางการเมืองในลิเบียที่ยังคงแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งกีดกันการผลิตน้ำมัน”

เบรนต์และ WTI อยู่ในเส้นทางที่จะทำผลงานเพิ่มขึ้น 6% ในสัปดาห์แรกของปี โดยราคาสูงสุดตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากความกังวลด้านอุปทานแซงหน้าความกังวลว่าการแพร่กระจายของ Omicron ที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์

อุปทานที่เพิ่มขึ้นจาก OPEC+ นั้นไม่สอดคล้องกับการเติบโตของอุปสงค์ ผลผลิตของกลุ่มในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 70,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าระดับ 253,000 บาร์เรลต่อวันภายใต้โควตาการอุปทานของกลุ่ม นอกจากนี้ การผลิตในลิเบียยังลดลงเหลือ 729,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากงานซ่อมบำรุงท่อส่ง

แหล่งข่าว Oil prices jump on supply worries amid Kazakhstan unrest โดย Reuters