น้ำมันทรงตัว จากความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยที่อาจฉุดอุปสงค์

น้ำมันขยับเล็กน้อยในวันอังคาร หลังจากขึ้นในเซสชั่นก่อนหน้า จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่อาจนำไปสู่ภาวะถดถอย

สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับการส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 7 เซนต์หรือ 0.1% สู่ 91.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI สำหรับการส่งมอบเดือนตุลาคมที่จะหมดอายุในวันอังคารอยู่ที่ 85.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สสำหรับเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 85.20 ดอลลาร์ ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.2%

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันจันทร์ก่อนการประชุมนโยบายของเฟด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะขึ้นที่ 75 จุดพื้นฐาน ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ถือสกุลเงินอื่น Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า “ราคาน้ำมันดิบอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความกังวลว่าเฟดจะดำเนินการเชิงรุกเกินไปและสร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังอ่อนแอ”

การสำรวจเบื้องต้นของรอยเตอร์ที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วประมาณ 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 16 กันยายน
ขณะที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งมอบในเดือนพฤศจิกายนมากกว่า 10 ล้านบาร์เรล

การฟื้นตัวของข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคงไม่มีแนวโน้มเชิงบวก รัสเซียกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ไขยังคงอยู่ในการเจรจา ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศสกล่าวว่าเป็นหน้าที่ของเตหะรานที่จะตัดสินใจ

เอกสารภายในของ OPEC เผยกลุ่มยังไม่สามารถบรรลุการผลิตได้ตามโควตาที่ 3.583 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนสิงหาคม ขณะที่เดือนกรกฎาคมพลาดเป้าไปที่ 2.892 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นักวิเคราะห์จาก ANZ Research ชี้ว่าการยกเลิกการล็อกดาวน์ทั่วเมืองในเฉิงตูและต้าเหลียนของจีน อาจเป็นจุดประกายให้อุปสงค์น้ำมันเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

แหล่งข่าว Oil prices steady as prospect of Fed hikes may curb fuel demand โดย Reuters