น้ำมันพุ่ง หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า แม้อุปสงค์ยังไม่ค่อยดี

น้ำมันขึ้นในวันอังคารหลังดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่การปรับขึ้นยังถูกจำกัดจากความกังวลด้านอุปสงค์ที่ไม่ค่อยดีนัก สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์ Benchmark ขึ้น 3 เซนต์มาที่ 93.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 0.3% ในช่วงก่อนหน้า สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 11 เซนต์เป็น 84.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลดลงก่อนหน้านี้ที่ 0.6%

ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันอังคารจากความคาดหวังว่าเฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งการอ่อนค่าลงนั้นทำให้ผู้ซื้อด้วยสกุลเงินอื่นซื้อได้ถูกลง อย่างไรก็ตาม สัญญาณของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในสหรัฐและจีนยังคงจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน

Vandana Hari ผู้ก่อตั้งผู้ให้บริการวิเคราะห์ตลาดน้ำมัน Vanda Insights กล่าวว่า “ราคาระหว่างวันผันผวน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทั้งสองเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตั้งแต่วันพฤหัสบดี ทั้งนี้ปัจจัยพื้นฐานด้านอุปทานและอุปสงค์ยังคงทรงตัว”

กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่สี่ในเดือนตุลาคมตามการสำรวจรายเดือนของ S&P Global ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ซึ่งอาจสะท้อนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้นเริ่มเห็นผล และอาจนำไปสู่การแตะเบรก

ในวันจันทร์จีนเผยข้อมูลการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนกันยายนลดลง 2% จากปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันยอดขายปลีกก็เริ่มชะลอตัว

สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์สำรวจโดยรอยเตอร์สประมาณการสต็อกจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ 21 ตุลาคม
นักวิเคราะห์ยังประเมินว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลงประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นคาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

Fatih Birol หัวหน้าสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศกล่าวเมื่อวันอังคารว่า โลกจะยังคงต้องการน้ำมันของรัสเซีย แม้ว่าจะมีการกำหนดเพดานราคาเพื่อตอบสนองความต้องการ

แหล่งข่าว Oil rises as U.S. dollar loses steam though demand fears linger โดย Reuters