ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวเล็กน้อยในช่วงเช้าวันศุกร์ แต่อยู่ในทิศทางการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์แรกในรอบ 5 สัปดาห์ โดยมีปัจจัยมาจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความเป็นไปได้ที่ OPEC+ อาจมีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงในการประชุมวันที่ 5 ตุลาคมนี้
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐสำหรับเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 6 เซนต์เป็น 81.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 92 เซนต์ในช่วงก่อนหน้า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดินเบรนต์สำหรับเดือนพฤศจิกายนซึ่งจะหมดอายุในวันศุกร์ขึ้น 2 เซนต์เป็น 88.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 83 เซนต์ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่สัญญาซื้อขายสำหรับเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 1 เซนต์เป็น 87.19 ดอลลาร์ โดยเบรนต์และ WTI ยังอยู่ในทิศทางการเพิ่มขึ้นราว 3% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อต้นสัปดาห์
ในช่วงไตรมาสที่สามเบรนต์ร่วงลง 23% ซึ่งเป็นการร่วงลงในรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ขณะที่ WTI อยู่ในทิศทางร่วงลง 9% ในเดือนกันยายน และเป็นการร่วงลงในเดือนที่ 4 และลดลง 23% ในช่วงไตรมาส
นักวิเคราะห์ระบุว่า ดูเหมือนอุปทานจะตึงตัวขึ้นจากการแบนของสหภาพยุโรปต่อรัสเซียในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ แต่สำคัญคือยังไม่มีใครรู้ว่าอุปสงค์จะลดลงเท่าไหร่เพราะการเติบโตทั่วโลกจะชะลอตัวลงท่ามกลางการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคาร
“โดยพื้นฐานแล้ว ราคาน่าจะยังขึ้นต่อไปจากประเด็นการคว่ำบาตรและสต็อกน้ำมันของโลกที่ลดลง ขณะที่ปริมาณการอุปทานของ SPR (สำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐ) เริ่มลดลงแล้ว” Baden Moore นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียเสริม “ทั้งนี้ คาดว่า OPEC น่าจะมีบทบาทที่ดีต่อการจัดการอุปทานรับมือกับความเสี่ยงด้านอุปสงค์ที่จะเกิดขึ้น”
แหล่งข่าว 3 รายกล่าวกับรอยเตอร์สว่า OPEC+ ได้เริ่มหารือเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตก่อนการประชุมนโยบายการผลิตจะเริ่มขึ้นในวันพุธที่จะถึงนี้แล้ว โดยเฉพาะรัสเซียเสนอให้ลดการผลิตถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่แตะเมื่อต้นสัปดาห์ โดยดอลลาร์ที่อ่อนค่านั้นทำให้ผู้ซื้อจากสกุลเงินอื่นสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลง
แหล่งข่าว Oil steadies on prospect of OPEC+ output cut, weaker dollar โดย CNBC
COMMENTS