หุ้นแบงก์พักนำโดย SCB ที่ประกาศปันผลมาก่อนใครเพื่อน แต่ รอบใหม่ และ รอบใหญ่ หุ้นไทยยังเป็นแบงก์
ต่างชาติตะลุยซื้อหุ้นไทยช่วงนี้ ได้จังหวะดี “กองทุนขายหุ้น” ส่งให้ “ต่างชาติรับไม้ต่อ” หุ้นที่มีการซื้อ มาตลอด หุ้นแบงก์ ช่วงนี้เลยลดความร้อนแรงลงไปทันที
หุ้นหลัก KBANK –SCB-BBL ราคาหุ้นขึ้นมาในรอบนี้ยังลุ้นทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในปีนี้และผลดีจากการเป็นหุ้นวัฎจักรที่มักจะปรับตัวขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ
เหนืออื่นใดคือราคาหุ้นขึ้นมาหุ้นแบงก์ยังเข้าข่ายมี มูลค่าต่ำ อยู่ดี ไม่แปลกที่ต่างชาติเห็นแล้วอดใจแบ่งเงินลงทุนมาไล่เก็บดันราคาหุ้นขึ้นให้คึกคัก
แบงก์ใหญ่ SCB ลงมาพักย่อให้เห็นก่อนใครเพื่อนหลังประกาศขึ้น XD ตามหลังประกาศจ่ายปันผลที่ “มาเร็ว-เคลมเร็ว” อัตรา 2.63 บาท ฉลองรับวันวาเลนไทน์ให้กับผู้ถือหุ้นได้ชื่นมื่นกัน
หุ้นแบงก์ “รอบใหม่” และ “รอบใหญ่” มาจ่อรอขยับให้ชิมลางสตาร์ท “ดิจิทัล” กันมาแล้ว
หุ้นไทยถูกเทขายหนักตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ส่อเค้ารุนแรงขึ้น ฉุดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกร่วงระนาว รวมทั้งต้องรอติดตามการรายงานผลประชุมเฟดช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งจ่อคุมเข้มนโยบายการเงิน เพื่อรับมือเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปี
โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,684.69 จุด ลดลง 14.51 จุด หรือ 0.85% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,694.19 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,680.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 86,377.01ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อ 3,587.56 ล้านบาท พอร์ตโบรกฯ ซื้อ 603.06 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันขาย 3,070.45 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 1,120.17 ล้านบาท
“หุ้นน้ำมัน” เป็นเพียงไม่กี่กลุ่มที่บวกสวนกระดาน หลังราคาน้ำมันดิบทะยานต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 8 ปี หวั่นว่าหากเกิดสงครามขึ้นจริงจะกระทบต่อการผลิตและส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ตรงกันข้ามกลุ่มที่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นต้นทุนหลักในการทำธุรกิจ ถูกเทขายถ้วนหน้าทั้ง “ปิโตรเคมี-โรงไฟฟ้า-ขนส่ง”
นอกจากน้ำมันแล้ว สินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวแรงเช่นกัน ไล่มาตั้งแต่ ถ่านหิน ถั่วเหลือง ไปจนถึงข้าวสาลี หวั่นว่าสงครามจะกระทบต่อซัพพลาย หนุน “หุ้นถ่านหิน” พร้อมใจบวกยกกลุ่ม แต่ที่เด้งแรงต้องยกให้น้องเล็ก บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น (TCC) พุ่ง 14.29% ปิดที่ 1.28 บาท เนื่องจากราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับพี่ๆ จึงเหมาะกับขาเก็งกำไร
“ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งรัสเซียกับยูเครน เพราะทั้ง 2 ประเทศถือเป็นซัพพลายเออร์วัตถุดิบรายใหญ่ให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลายราย ดังนั้นหากเกิดการปะทะกันขึ้นจริง จะยิ่งทำให้ปัญหาชิพขาดแคลนลากยาวไปอีก แต่ที่อาการหนักเห็นจะเป็น บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) หลังถูกเทขาย 4 วันติด ร่วงแรงกว่า 20% มาปิดที่ 59 บาท
หุ้นบมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL) พุ่งทันที หลังประกาศกำไรไตรมาส 3 ปี 64/65 โตแกร่ง กวาดกำไรไปทั้งหมด 1,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งจากงวดปีก่อนอยู่ที่ 724 ล้านบาท รับอานิสงส์ยอดขายแผ่นฟิล์มโตต่อเนื่อง แถมเริ่มรับรู้รายได้จากตลาดอินโดนีเซียเข้ามา พร้อมจัดปันผลให้อีกหุ้นละ 0.42 บาท เตรียมขึ้น XD 28 ก.พ. และจ่ายจริง 11 มี.ค. นี้ ดันราคาหุ้นบวกกระฉูด 9.38% ปิด 26.25 บาท
COMMENTS