ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามในวันจันทร์ เนื่องจาก Tesla ที่พุ่งขึ้นแรง บดบังความอ่อนแอของหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร ขณะที่รัสเซียและยูเครนเตรียมเจรจาสันติภาพในอีกกว่าสองสัปดาห์ Tesla Inc พุ่งขึ้น 8.03% โดยผู้นำใน S&P 500 และ Nasdaq และช่วยดันดัชนีการตัดสินใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.67%
ดัชนีพลังงานใน S&P ลดลง 2.56% หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงจากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ Exxon Mobil Corp ร่วงลง 2.81% และ Chevron Corp ก็ลดลง 1.75%
การเงินก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่อ่อนแอ หลังจากที่มอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดอันดับธนาคารของสหรัฐ ซึ่งอ้างถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดโดยตลาด ดัชนีธนาคาร S&P ร่วง 0.99%
การเทขายออกในตลาดตราสารหนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในวันจันทร์ โดยอัตราผลตอบแทนระยะสั้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2019 และเส้นอัตราผลตอบแทนที่วัดโดยส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนอายุ 5 ถึง 30 ปีพลิกกลับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2006
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 94.65 จุดหรือ 0.27% เป็น 34,955.89 จุด, S&P 500 เพิ่มขึ้น 32.46 จุดหรือ 0.71% เป็น 4,575.52 จุด และ Nasdaq Composite เพิ่ม 185.60 จุดหรือ 1.31% ถึง 14,354.90 จุด
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการเพิ่มขึ้นของหุ้นที่มีการเติบโตต่ำช่วยให้ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทฟื้นตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้ว่ายังมีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และสัญญาณการปรับนโยบายของเฟด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าหุ้นมูลค่ายังคงมีราคาถูกเมื่อเทียบกับหุ้นที่เติบโต
ยูเครนและรัสเซียกล่าวว่าคณะผู้แทนของพวกเขาจะมาถึงตุรกีเพื่อเจรจาสันติภาพที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ดูเหมือนจะไม่พร้อมที่จะประนีประนอม
ด้านหุ้นรายตัว หุ้น Poly พุ่งขึ้น 52.63% หลังจาก HP Inc เผยว่าจะซื้อผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสียงและวิดีโอด้วยเงินสด 1.7 พันล้านดอลลาร์ หุ้น HP ลดลง 2.74%
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอยู่ที่ 11.23 พันล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 14.09 พันล้านสำหรับเซสชั่นเต็มในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
S&P 500 ทำจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ใหม่ 35 ครั้งและจุดต่ำสุดใหม่ 4 ครั้ง ขณะที่ Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่ 48 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 107 ครั้ง
แหล่งข่าว S&P 500 climbs for third straight day as Tesla leads โดย Reuters
COMMENTS