S&P 500 ปิดย่อลงในวันพฤหัสบดีหลังจากนักลงทุนสรุปผลประกอบการรายไตรมาสที่น่าผิดหวังจากธนาคารขนาดใหญ่สองแห่งของสหรัฐและข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินคาด
ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐถูกเทขายออกอย่างรวดเร็วหลังจากผลประกอบการไตรมาสจาก JPMorgan Chase & Co และ Morgan Stanley พร้อมออกคำเตือนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น
Jay Hatfield ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ InfraCap ในนิวยอร์กกล่าวว่า “มีการตอบสนองอย่างไม่สมเหตุสมผลต่อผลลัพธ์ของ JPMorgan และ Morgan Stanley “เพราะผลประกอบการของวาณิชธนกิจที่อ่อนแอนั้นไม่น่าแปลกใจ”
อนึ่ง JPMorgan ออกคำเตือนว่ามีความไม่แน่นอนในตลาด เช่นเดียวกับ เจมี่ ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan แสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก หุ้นของ JPMorgan Chase และ Morgan Stanley ลดลง 3.5% และ 0.4% ตามลำดับขณะที่ดัชนี S&P Banks ร่วง 2.4%
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 142.62 จุดหรือ 0.46% สู่ 30,630.17, S&P 500 ลดลง 11.4 จุดหรือ 0.30% ที่ 3,790.38 และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 3.60 จุดหรือ 0.03% ที่ 11,251.19
ด้วยฤดูกาลแสดงผลประกอบการอย่างเป็นทางการ นักวิเคราะห์คาดว่า S&P 500 จะเติบโต 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.8% เมื่อต้นไตรมาสตามรายงานของ Refinitiv
หุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ของ Taiwan Semiconductor Manufacturing เพิ่มขึ้น 2.9% ตามคำแนะนำด้านรายได้ของผู้ผลิตชิป
Conagra Brands ร่วงลง 7.2% หลังจากออกประมาณการรายได้ประจำปีซึ่งต่ำกว่าประมาณการ
ในรอบ 52 สัปดาห์ S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่ 1 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 44 จุด Nasdaq Composite ทำจุดสูงสุดใหม่ 9 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 294 จุด
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอยู่ที่ 10.86 พันล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 12.48 พันล้านในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
แหล่งข่าว S&P 500, Dow close lower after bank earnings, inflation data โดย Reuters
COMMENTS