SEARCH

‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่ 33.12 บาทต่อดอลลาร์

ซีอีโอระดับโลกประกาศการลงทุน 6.7 พันล้านยูโรที่การสุดยอดประชุมการประชุม Macron’s Versailles
สถานการณ์แพร่ระบาดของ Omicron และความเชื่อมั่นของพาวเวลล์กำลังหนุนน้ำมัน
อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรชะลอตัวลง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (19ม.ค.) ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.05-33.20 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เราคงมองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ใกล้ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์หลังจากเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าจากความกังวลเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้เยอะกว่าที่คาดในเดือนมีนาคมนอกจากนี้ เราเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจกดดันเงินบาทได้บ้าง

อย่างไรก็ดี เงินบาทยังมีแรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง จากความหวังการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นต่อ ก็อาจเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับเข้ามา ซึ่งโฟลว์ขายทำกำไรทองคำก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้

ทั้งนี้ เรามองว่า แนวต้านสำคัญของเงินบาทจะอยู่ในโซน 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ที่ระดับดังกล่าว ส่วนแนวรับสำคัญจะอยู่ในช่วง 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอาจมีแรงซื้อเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้าช่วยพยุงเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากได้

แม้ว่าตลาดการเงินฝั่งสหรัฐจะกลับมาเปิดทำการตามปกติ แต่ผู้เล่นในตลาดก็ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นหลังผู้เล่นในตลาดเริ่มมีความกังวลว่า ปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงไปมากนั้น อาจทำให้เฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 50bps ในเดือนมีนาคม ซึ่งมากกว่าการขึ้นดอกเบี้ยปกติเพียง 25bps ต่อครั้ง

แนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์และรับรู้ไปแล้วนั้น ได้กดดันให้ สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Tech และหุ้นสไตล์ Growth ที่มีความอ่อนไหวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวด ต่างปรับตัวลงอย่างหนัก ดังจะเห็นได้จากดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลงกว่า -2.60% ส่วนดัชนี S&P500 ก็ปรับตัวลดลงกว่า -1.83% ในขณะที่ดัชนี Dowjones ซึ่งมีหุ้นTech/Growth น้อยกว่า ปรับตัวลง -1.51%

ทั้งนี้ แม้ว่าเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดได้รับรู้แนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟดไปแล้วพอสมควร แต่ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ยังกังวลการขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่าปกติของเฟดอยู่ ทำให้เหลือปัจจัยด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อาจจะพอช่วยหนุนให้ตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงได้ หากผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด

สำหรับวันนี้ ตลาดจะจับตา รายงานเงินเฟ้อทั่วไปของอังกฤษ โดยตลาดคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนธันวาคมจะปรับตัวขึ้นแตะ 5.2% ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคม หากเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ การจ้างงาน ทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์การระบาดของโอมิครอนในอังกฤษน่าจะผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วเช่นกัน

แหล่งข่าว ‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่ 33.12 บาทต่อดอลลาร์, bangkokbiznews, 19 ม.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0