SEARCH

‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่ 33.12 บาทต่อดอลลาร์

Nikkei แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนจากความกลัวต่อการรุกรานยูเครน
SCB เกาะยานแม่ รุกดิจิทัลแบงกิ้ง ดัน อาร์โออีพุ่ง20%
ดอลลาร์-เยนอ่อนตัว หลังหุ้นสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (19ม.ค.) ที่ระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.05-33.20 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เราคงมองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ใกล้ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์หลังจากเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าจากความกังวลเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยได้เยอะกว่าที่คาดในเดือนมีนาคมนอกจากนี้ เราเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจกดดันเงินบาทได้บ้าง

อย่างไรก็ดี เงินบาทยังมีแรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง จากความหวังการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นต่อ ก็อาจเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับเข้ามา ซึ่งโฟลว์ขายทำกำไรทองคำก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้

ทั้งนี้ เรามองว่า แนวต้านสำคัญของเงินบาทจะอยู่ในโซน 33.20-33.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ที่ระดับดังกล่าว ส่วนแนวรับสำคัญจะอยู่ในช่วง 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอาจมีแรงซื้อเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้าช่วยพยุงเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากได้

แม้ว่าตลาดการเงินฝั่งสหรัฐจะกลับมาเปิดทำการตามปกติ แต่ผู้เล่นในตลาดก็ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นหลังผู้เล่นในตลาดเริ่มมีความกังวลว่า ปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงไปมากนั้น อาจทำให้เฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 50bps ในเดือนมีนาคม ซึ่งมากกว่าการขึ้นดอกเบี้ยปกติเพียง 25bps ต่อครั้ง

แนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์และรับรู้ไปแล้วนั้น ได้กดดันให้ สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Tech และหุ้นสไตล์ Growth ที่มีความอ่อนไหวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวด ต่างปรับตัวลงอย่างหนัก ดังจะเห็นได้จากดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลงกว่า -2.60% ส่วนดัชนี S&P500 ก็ปรับตัวลดลงกว่า -1.83% ในขณะที่ดัชนี Dowjones ซึ่งมีหุ้นTech/Growth น้อยกว่า ปรับตัวลง -1.51%

ทั้งนี้ แม้ว่าเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดได้รับรู้แนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟดไปแล้วพอสมควร แต่ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ยังกังวลการขึ้นดอกเบี้ยได้มากกว่าปกติของเฟดอยู่ ทำให้เหลือปัจจัยด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อาจจะพอช่วยหนุนให้ตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงได้ หากผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด

สำหรับวันนี้ ตลาดจะจับตา รายงานเงินเฟ้อทั่วไปของอังกฤษ โดยตลาดคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนธันวาคมจะปรับตัวขึ้นแตะ 5.2% ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคม หากเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ การจ้างงาน ทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์การระบาดของโอมิครอนในอังกฤษน่าจะผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วเช่นกัน

แหล่งข่าว ‘เงินบาท’ วันนี้เปิด’อ่อนค่า’ที่ 33.12 บาทต่อดอลลาร์, bangkokbiznews, 19 ม.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0