หุ้นวอลล์สตรีทปิดลง ดัชนีหลายตัวฟื้นช่วงสั้นๆ หลังรายงานเฟดออกมา

หุ้นสหรัฐปิดลงในวันพุธ โดยดัชนีผันผวนหลังจากรายงานประชุมเฟดออกมาซึ่งระบุว่าผู้กำหนดนโยบายพร้อมชะลอการกระชับนโยบายในเดือนกันยายน รายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของ Target ส่งผลกระทบต่อตลาด ร่วมกับหุ้น megacap อย่าง Amazon ที่ปิดลง 1.9%

เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนมาตรฐาน 225 จุดในปีนี้เป็นช่วงเป้าหมาย 2.25% ถึง 2.50% โดยหลังจากการแถลงข่าว ผู้ค้าฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยกำลัง price in เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับดอกเบี้ย 50 จุดในเดือนกันยายน

Peter Cardillo หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของ Spartan Capital Securities กล่าวว่า “เฟดส่งสัญญาณที่ไม่ทะเยอทะยาน แต่ก็เปิดแนวทางไว้ ทั้งนี้อาจมีการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 50 จุดในเดือนกันยายน”

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 171.69 จุดหรือ 0.5% สู่ 33,980.32, S&P 500 ลดลง 31.16 จุดหรือ 0.72% สู่ 4,274.04 และ Nasdaq Composite ลดลง 164.43 จุดหรือ 1.25% ถึง 12,938.12

หลังจากครึ่งปีแรกที่โหดร้าย หุ้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมจากผลประกอบการของบริษัทที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังมีมุมมองที่ดีว่าเฟดจะดำเนินนโยบายได้ดี

หุ้น Target ปิดลง 2.7% หลังจากผู้ค้าปลีกรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ลดลง 90% และพลาดประมาณการยอดขาย ดัชนีค้าปลีก S&P 500 ลดลง 1.2% หุ้น Lowe’s Cos Inc เพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่บริษัทประกาศผลกำไรรายไตรมาสดีกว่าที่คาดไว้ ยอดค้าปลีกของสหรัฐคงที่อย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเมื่อต้นไตรมาสที่สาม

ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอยู่ที่ 10,760 ล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 10,920 ล้านสำหรับเซสชั่นเต็มในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
ในรอบ 52 สัปดาห์ S&P 500 ทำจุดสูงใหม่ 4 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 29 จุด Nasdaq Composite ทำจุดสูงสุดใหม่ 36 จุดและจุดต่ำสุดใหม่ 57 จุด

แหล่งข่าว Wall Street ends down, but indexes briefly cut losses after Fed minutes โดย Reuters