ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทปิดร่วงลงอย่างหนักในวันพุธ โดยดัชนีเทคฯยักษ์อย่าง Nasdaq กำลังยืนยันการปรับฐานท่ามกลางฤดูรายงานผลประกอบการที่หลากหลายและความกังวลเกี่ยวกับบอนด์ยีลด์ที่พุ่งสูง
Nasdaq ปิดร่วงลง 10.7% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ซึ่งนับเป็นการยืนยันการปรับฐาน โดยการปรับฐานล่าสุดของ Nasdaq เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2021 เมื่อดัชนีลดลงมากกว่า 10% ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. ถึง 8 มี.ค. ซึ่งเป็นครั้งที่สี่ในรอบสองปีนับตั้งแต่การระบาดใหญ่
ในวันพุธ หุ้นของ Apple ร่วง 2.1% ซึ่งหนักที่สุดใน Nasdaq เช่นเดียวกับ Tesla และ Amazon ต่างลากดัชนีให้ร่วงลง
หุ้นปี 2022 ท่ามกลางบอนด์ยีลด์ที่พุ่งสูงจากความกังวลที่ว่าเฟดจะปรับนโยบายอย่างแข็งกร้าวเพื่อคุมเงินเฟ้อ ซึ่งมันจะกระทบต่อหุ้นเทคฯ และหุ้นเติบโต ดัชนี S&P 500 ลดลงประมาณ 5% จนถึงปีนี้
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 339.82 จุดหรือ 0.96% กลับไปที่ 35,028.65 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 44.35 จุดหรือ 0.97% กลับไปที่ 4,532.76 จุด และ Nasdaq Composite ลดลง 166.64 จุดหรือ 1.15% กลับไปที่ 14,340.26 จุด หุ้นกลุ่ม small cap Russell 2000 ร่วง 1.6%
นักลงทุนจับตารอการประชุมนโยบายเฟดในสัปดาห์หน้าเพื่อรอดูสัญญาณการควบคุมเงินเฟ้อที่ชัดเจนขึ้น Michael James กรรมการผู้จัดการฝ่ายซื้อขายตราสารทุนของ Wedbush Securities กล่าวว่า “มีความกังวลอยู่พอสมควรว่าในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร”
ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ใหม่ 13 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 7 ครั้ง Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่ 23 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 630 ครั้ง
ปริมาณการแลกเปลี่ยนหุ้นในสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 11.4 พันล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ยรายวันในช่วง 20 เซสชันล่าสุดที่ 10 พันล้าน
แหล่งข่าว Wall Street sell-off deepens, Nasdaq confirms correction โดย Reuters
COMMENTS