SEARCH

ทำใจ! อุปทานโลกตึงตัว ดันราคา “น้ำมันพืช” พุ่งต่อ กระทบธุรกิจไหนบ้าง

ธนาคารอินโดนีเซียจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงครึ่งหลังของปี 2565
ITC คับคั่ง |ออฟเรคคอร์ด
โดมิโนเอฟเฟกต์ FTX เริ่มแล้ว! BlockFi ระงับถอนเงิน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุถึง “ราคาน้ำมันพืช” ในตลาดโลกปี 2565 ยังมีแนวโน้มขยับขึ้น จากปัญหาอุปทานตึงตัวจากความตึงเครียดระหว่าง สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของโลกอย่างอินโดนีเซีย ท่ามกลางสถานการณ์สินค้าทดแทนที่มีจำกัด และอุปสงค์ในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะความต้องการจากผู้ซื้อรายใหญ่อย่างอินเดียและจีน

นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยในประเทศ ได้แก่ ความต้องการน้ำมันพืชหลักในไทยยังอยู่ในระดับสูง ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันของไทยที่ใกล้จะหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว สต็อกปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลืออยู่ในระดับต่ำกว่า Safety Stock และต้นทุนการผลิตที่ขยับสูงขึ้น ซึ่งกดดันราคานำมันพืชในไทยด้วยจากปัจจัยข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงที่เหลือปี 2565 ราคาน้ำมันพืชหลักในไทยอย่าง น้ำมันปาล์ม ยังมีโอกาสขยับสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนแรกปี 2565 และทำให้ราคาน้ำมันปาล์ม (สำเร็จรูปบรรจุขวด) เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 65-68 บาท/ขวด (1ลิตร) เพิ่มขึ้น 35-41%YoY จากปี 2564 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 48.12 บาท/ขวด ภายใต้สมมติฐานที่ว่าอินโดนีเซียอาจจะกลับมาส่งออกน้ำมันปาล์มโอเลอีนได้อีกครั้ง ผลผลิตปาล์มน้ำมันของมาเลเซียจะทยอยออกมาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 และรัสเซียน่าจะส่งออกน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวันได้ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวครึ่งหลังปี 2565

แหล่งข่าว ทำใจ! อุปทานโลกตึงตัว ดันราคา “น้ำมันพืช” พุ่งต่อ กระทบธุรกิจไหนบ้าง, bangkokbiznews, 17 พ.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0