รอยเตอร์ชี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อหนุนเศรษฐกิจแม้จะมีอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นก็ตาม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้แรงหนุนจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นเป็นหลัก ในด้านผู้กำหนดนโยบายคาดว่าแรงกดดันดังกล่าวจะคงอยู่ชั่วคราวเท่านั้น
สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียกำลังกระตุ้นให้ราคาพลังงานและราคาอาหารโลกพุ่งสูงขึ้น ธปท. จึงควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ยากขึ้น แต่ธนาคารกลางในหลายประเทศระบุว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงนั้นเป็นเพียงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ธปท. คาดว่าจะคงนโยบายที่ผ่อนคลายเพื่อฟื้นการเติบโตที่ยังไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดเนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ลดลงและการจำกัดการเคลื่อนไหวที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 22 คนในการสำรวจของรอยเตอร์ในวันที่ 16-25 มีนาคม คาดการณ์ว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนในหนึ่งวัน (THCBIR=ECI) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ในการประชุมวันที่ 30 มีนาคม การคาดการณ์ค่ามัธยฐานไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราจนถึงไตรมาสที่สองของปี 2566
ธปท. คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.75% ในไตรมาสที่สองของปีหน้า ทำให้เป็นธนาคารกลางแห่งสุดท้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ 6 ใน 13 คนคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่สองของปีหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่อ่อนแอเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของธนาคารกลาง
แหล่งข่าว Bank of Thailand to keep steady policy hand as growth trumps inflation โดย Reuters
COMMENTS