SEARCH

ได้เวลาทองลงแล้วหรือยัง เมื่อสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี

บริษัทเทคของจีนที่ Listing ในสหรัฐยกเลิกการ Listing ในฮ่องกง
ความปั่นป่วนในตลาดจากความขัดแย้งในยูเครน ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นชั่วขณะ
ทองคำทรงตัวจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

ในปีช่วง 2016 – 2019 ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่าเฟด (Fed) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากใครที่ลงทุนในหุ้นอยู่ตอนนั้นคงจำกันได้ว่า ตลาดหุ้น Dow jone พุ่งทำ All time high หรือจุดสูงสุดตลอดกาลอย่างต่อเนื่อง

แต่ในทางกลับกันที่ราคาทองคำนั้นโดนทุบลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ต่ำสุดที่ประมาณ 1050$ เลยทีเดียว

แต่เวลาต่อมาได้เกิดสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐขึ้น ทำให้เฟดเริ่มกลับมาทำการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง และตบท้ายด้วยการเจอวิกฤติโควิด-19 จนทำให้เฟดต้องกดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0% ทันที และนั้นก็คือ จุดกลับตัวขาขึ้นของทุกตราสารการเงิน

เราจะรู้แล้วว่าหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยและเศรษฐกิจโลกจะถดถอยใน 1-2 ปี ข้างหน้า แต่ในระยะสั้น ความไม่แน่นอนของรัสเซีย-ยูเครน ยังสามารถออกหัวหรือก้อยได้เสมอ ทำให้อินเตอร์โกลด์มองว่าอาจผ่านจุดสูงสุดของความขัดแย้งไปแล้ว และเมื่อใดที่ความขัดแย้งคลี่คลายลง ทองคำจะถูกเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งจะกดดันราคาทองคำระยะสั้น ประกอบกับเรื่องที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากทั้ง 2 องค์ประกอบนี้จะกดดันทองคำอย่างมาก โดยคาดว่าเราอาจได้เห็นราคาทองคำต่ำสุดที่ 1900$/oz ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า และนั้นจะเป็นโอกาสเริ่มเก็บทอง ของนักลงทุนทองคำระยะยาว เพราะความจริงที่ว่าโลกจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมในช่วง 1-2 ปีแน่ๆ

ดังนั้น สภาวะเงินเฟ้อสูงบวกกับสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอทั่วโลก คือช่วงเวลาที่ทองคำให้ผลตอบแทนดีที่สุด โดยอินเตอร์โกลด์ยังมองว่าเฟดจะไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อเนื่องทั้งปีอย่างที่เฟดกล่าวไว้อีกด้วย หากเป็นแบบนี้ทองคำจะขึ้นได้รุนแรงกว่าที่หลายคนคิด แต่วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนแล้วกัน คิดว่ายาวมากแล้ว ใครอยากรู้ว่าทำไมอินเตอร์โกลด์ถึงคิดว่าเฟดมีโอกาสจะคืนคำพูดตัวเองสูงติดตามต่อได้ในตอนต่อไปนะครับ

แหล่งข่าว ได้เวลาทองลงแล้วหรือยัง เมื่อสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี, bangkokbiznews, 17 มี.ค. 2565

COMMENTS

WORDPRESS: 0
DISQUS: 0