ผลสำรวจของรอยเตอร์ชี้ว่า เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ย 75 จุดต่อเนื่องในการประชุมนโยบายเดือนหน้า โดยคาดว่าเฟดจะไม่แตะเบรกจนกว่าเงินเฟ้อจะลดลงประมาณครึ่งหนึ่งของระดับปัจจุบัน
ขณะที่ การดำเนินนโยบายที่เข้มงวดกำลังทำให้เศรษฐกิจเสี่ยงต่อภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นเป็น 65% จาก 45% การสำรวจยังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายสะสมน่าจะอยู่ที่ 3.75%-4.0% ในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 50 จุดในการประชุมเดือนธันวาคม ดอกเบี้ยนโยบายสะสมอยู่ที่ 4.25%-4.50% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งตรงกับค่ามัธยฐานของ “Dot Plot” ของเฟด และจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 4.50% -4.75% หรือสูงกว่านั้นในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 ตามข้อมูลของนักเศรษฐศาสตร์ 49 คนจาก 80 คน
สำหรับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับเหนือ 8% ตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดว่าจะลดลงครึ่งหนึ่งจนถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2023 และจนสิ้นปี 2023 จะอยู่ที่ 3.9% และ 2.5% สำหรับปี 2024
Brett Ryan นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสหรัฐของ Deutsche Bank ระบุว่า “การแตะเบรกของเฟดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานที่ ‘ชัดเจนและน่าสนใจ’ ว่าเงินเฟ้อลดลงแล้ว แต่ด้วยความเข้มงวดทางนโยบายในขณะนี้ เราคาดว่าภาวะถดถอยในระดับปานกลางน่าจะเริ่มในไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า”
ในปีหน้า คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 0.4% ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ปรับลดต่ำลงในการสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์สแบบรายเดือน อัตราการว่างงานเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 3.7% ในปีนี้ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% และ 4.8% ในปี 2023 และ 2024 ตามลำดับ
แหล่งข่าว Fed to hike by 75 bps again on Nov. 2, should pause when inflation halves -economists: Reuters poll โดย Reuters
COMMENTS